วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ไมโครซอฟท์ประกาศออก Edge WebView2 SDK รุ่นใช้งานจริงสำหรับแอพพลิเคชั่น .NET, เพิ่มตัวเลือกแจกจ่าย Runtime แบบ Fixed version

ไมโครซอฟท์ประกาศออก Edge WebView2 SDK รุ่นใช้งานจริงสำหรับแอพพลิเคชั่น .NET, เพิ่มตัวเลือกแจกจ่าย Runtime แบบ Fixed version


ไมโครซอฟท์ประกาศออก Edge WebView2 SDK รุ่นใช้งานจริงสำหรับแอพพลิเคชั่น .NET, เพิ่มตัวเลือกแจกจ่าย Runtime แบบ Fixed version

Posted: 06 Dec 2020 07:02 AM PST

หลังจากไมโครซอฟท์ได้ออก Edge WebView2 SDK ตัวช่วยเรนเดอร์หน้าเว็บบนแอพวินโดวส์ล่าสุดที่มาเปลี่ยนมาใช้เอนจิน Chromium ให้กับแอพพลิเคชั่นแบบ Win32 C/C++ มาได้ระยะหนึ่ง

ตอนนี้ก็มาถึงคราวของแอพวินโดวส์ที่พัฒนาด้วย .NET กันบ้าง เมื่อไมโครซอฟท์ได้ประกาศออกรุ่นใช้งานจริงของ WebView2 SDK สำหรับแอพพลิเคชั่นตระกูล .NET เป็นที่เรียบร้อย

ทำให้การพัฒนาแอพวินโดวส์ทั้งแบบ WinForms และ WPF ซึ่งมีการฝังการแสดงผลจากเว็บแอพ สามารถเปลี่ยนมาใช้ WebView2 SDK เพื่อใช้ประโยชน์จากเอนจิน Chromium ที่เรนเดอร์หน้าเว็บได้ตรงกับเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่ในท้องตลาดได้แล้ว

alt="ภาพ mockup ตัวอย่างการใช้ WebView2 บนแอพวินโดวส์จากเว็บไมโครซอฟท์"

และสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความเข้ากันได้กับแอพพลิเคชั่นเดิมที่เคยพัฒนามาก่อนหน้านี้ WebView2 SDK นั้นรองรับการรันบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ย้อนหลังไปได้ถึง Windows 7 และยังสามารถเลือกเวอร์ชันของ .NET ที่ใช้พัฒนาได้ทั้ง .NET Framework (4.6.2 ขึ้นไป), .NET Core 3.1 ไปจนถึงเวอร์ชันล่าสุดอย่าง .NET 5

ในโอกาสเดียวกันไมโครซอฟท์ยังได้ประกาศออก distribution mode หรือตัวเลือกแจกจ่าย WebView2 Runtime ไปกับแอพวินโดวส์แบบใหม่ที่มีชื่อว่า Fixed version ซึ่งเป็นการกำหนดให้แอพเลือกใช้ WebView2 เวอร์ชันที่ได้แพครวมไว้กับแอพเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ได้เกิดปัญหาด้านความเข้ากันได้กับหน้าเว็บหากมีการอัพเดต WebView2 ในภายหลัง

เพิ่มเติมจากตัวเลือกแจกจ่าย Runtime แบบเดิมคือ Evergreen ซึ่งเป็นการเปิดให้ WebView2 อัพเดตตัวเองแบบอัตโนมัติ ซึ่งมีข้อดีคนละอย่างกับตัวเลือกบนคือ เพื่อทำให้หน้าเว็บได้ใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆ และยังช่วยมั่นใจว่า WebView2 จะได้รับแพทช์ความปลอดภัยล่าสุดเสมอ

alt="ภาพอธิบายประโยชน์ที่จะได้รับการ WebView2 แบ่งออกเป็น 9 หัวข้อใหญ่จากเว็บไมโครซอฟท์"

นักพัฒนาท่านใดสนใจเข้าไปอ่านรายละเอียดได้จากเอกสารบนเว็บไมโครซอฟท์ครับ

ที่มา - Windows Blogs via MSPoweruser

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น